COVID-19 Updates: Click here
จากสถิติพบว่าผู้ที่หายจากการติดเชื้อ COVID-19 กว่า 73% ยังคงมีอาการเรื้อรังภายหลัง โดยมีรายงานว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอาการ ลองโควิด พบได้มากกว่าในเพศหญิง ผู้ที่มีโรคประจำตัวหอบหืด หรือผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-49 ปี และกลุ่มคนไข้ที่มีอาการรุนแรงในช่วงที่ติดเชื้อ
อาการของลองโควิด (Long COVID) สามารถสังเกตุได้หลังการติดเชื้อเมื่อเกิดขึ้นยาวนานกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไป โดยอาจมีอาการดังต่อไปนี้ เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ปวดเมื่อยตามตัวและข้อ รวมถึงอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
อีกหนึ่งกลุ่มอาการของลองโควิดที่พบได้บ่อย คือ อาการในส่วนของระบบประสาทและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น อาการปวดศีรษะ มึนศีรษะ นอนไม่หลับ ภาวะสมองล้า ภาวะสับสน ความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ ภาวะเครียดภายหลังภยันตรายหรือ PTSD อาการซึมเศร้า กลุ่มอาการย้ำคิดย้ำทำ รวมไปถึงภาวะวิตกกังวล ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มอาการที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำงานในแต่ละวัน โดยเฉพาะภาวะสมองล้า หรือที่ได้ยินกันบ่อยครั้งในชื่อ Brain Fog ภาวะที่สมองมีการทำงานลดลง ส่งผลให้การคิดและตัดสินใจล่าช้า การวางแผนและแก้ปัญหาไม่ฉับไวเช่นเดิม ไม่สามารถจดจ่อหรือมีสมาธิต่องานตรงหน้า ไปจนถึงส่งผลในขั้นที่หลงลืมความจำระยะสั้นไป
อาการของลองโควิดสามารถป้องกันและดูแลในเบื้องต้นได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงรับประทานอาหารที่หลากหลายเพื่อสุขภาพ หรือดูแลตัวเองในขั้นกว่าด้วยการฟื้นฟูสุขภาพในองค์รวมที่ รักษ คิดค้นขึ้นมาเฉพาะเพื่อผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและทางเดินหายใจ พร้อมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและฟื้นฟูร่างกายทุกส่วนโดยแพทย์ผู้ชำนาญการจาก VitalLife at RAKxa Wellness และแพทย์ศาสตร์ดั้งเดิมที่จะมาส่งเสริมการฟื้นฟูให้รอบด้านมากขึ้น
คืนสุขภาพที่แข็งแรงและฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายได้แล้ววันนี้ ที่รักษ